MEMORY OF LOVE
ความทรงจำแห่งรัก.
CHAPTER 22 : เป็นของกันและกันตลอดไป
( PART : ความทรงจำของปาร์ค ชานยอล )
EXO FICTION
By
: =KRISLY=
“ฮื่อ..”
“ตื่นแล้วหรอตัวเล็ก”
ผมละมือจากนกตัวเล็กๆที่กำลังพับอยู่แล้วหันไปมองคนตัวเล็กที่เริ่มขยับตัวทันที
เนื่องจากว่าเขาตื่นแล้ว ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้ห้าทุ่มตรงพอดี
“อื้อ ชานยอลทำอะไรอยู่”
เขาร้องถามก่อนจะยกมือขยี้ตาเล็กน้อยแล้วหันมามองหน้าผม
จากนั้นก็ใช้สองแขนยันตัวเองขึ้นมา เมื่อผมเห็นดังนั้นจึงต้องเข้าไปช่วยพยุง
“เอ่อ.. เราหรอ? ก็แบบว่า...”
ผมอ้ำอึ้ง
ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัวเล็กน้อยอย่างประหม่า ตายละหว่า..ลืมเก็บนก อายจัง T//T
“หือ ชานยอลพับนกเป็นด้วยหรอ น่ารักจัง”
“แหะๆๆ”
ตัวเล็กยิ้มบางออกมาก่อนจะยื่นมือมาหยิบนกตัวน้อยไปดูเล่น
ส่วนผมก็ทำได้แค่ยิ้มแหยๆส่งกลับไปก็เท่านั้น แล้วก็รู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนๆ
ด้วยนะ โหย..นี่รึเปล่าอาการที่เขาเรียกว่าเขินน่ะ..
แต่ผมก็เขินจริงๆ นะ ให้มันได้อย่างงี้ดิ..
“เพิ่งพับเป็นเมื่อกี้นี่เอง..”
“จริงดิ เก่งมากเลย
ตอนเด็กนะเราฝึกตั้งนานแหนะกว่าจะพับได้.. แล้วนี่ชานยอลพับไปทำไมหรอ?”
ตัวเล็กวางนกกลับไว้ที่เดิมอย่างเบามือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหาผม
แล้วนั้นก็ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย
ใครมันจะไปกล้าบอก..
ว่าผมทำเพื่อเขานั่นแหละ ..
“ไม่บอกหรอก -^-“
“ง่า ชานยอลอะ เดี๋ยวนี้ความลับเยอะจัง..”
“ฮะๆ เราเปล่าซะหน่อย”
ผมหัวเราะน้อยๆ เพราะเห็นตัวเล็กพองแก้มเหมือนเด็กๆ
ก่อนจะยกมือขึ้นไปยีหัวเขาเบาๆ แล้วค่อยจัดการเก็บนกใส่โหลอย่างเบามือ
นี่ไม่อยากจะอวดเลยว่าผมพับได้สองร้อยยี่สิบตัวแล้วนะ
J
“เปล่าอะไร ชานยอลไม่ยอมบอกเรา..”
“บอกไม่ได้ เพราะเราจะขอพร
เดี๋ยวมันไม่ได้ผลทำไง”
ผมตอบกลับไปตามความจริงก่อนจะยักคิ้วให้เขาทีนึงอย่างเป็นต่อ
“หือ
ชานยอลเชื่อเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
คนตัวเล็กหันมาถามผมด้วยความสงสัย
ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างร่าเริงแล้วเปลี่ยนมาเป็นท่านั่งกอดเข่าของตัวเองพร้อมกับเอาคางท้าวไว้
“ก็..”
“...”
“ตั้งแต่เจอกับตัวเล็กมั้ง..”
ผมตอบออกไปเสียงเบา ก่อนจะเสมองไปทางอื่น
โถ่เว้ย ทำไมผมขี้อายงี้วะ
เมื่อก่อนผมไม่ได้เป็นแบบนี้เลยนะสาบานได้!
ปาร์ค ชานยอล มึงเป็นอะไรเนี่ย..
“หือ?”
“อะไรเล่า”
“ฮะๆ ป่าวซะหน่อย ชานยอลน่ารักอะ”
ตัวเล็กยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วส่งมือเล็กนั้นมาจิ้มแก้มผมหนึ่งครั้ง
“นะ..น่ารักอะไร เราหล่อต่างหาก..”
“อื้อหล่อ แต่ตอนนี้เขินอะน่ารัก ฮะๆๆ”
“หึยตัวเล็กอะ หัวเราะไร ไม่ตลกเลยนะ”
“งื้อ...”
ตัวเล็กหลับตาปี๋ก่อนจะหดคออย่างจั๊กจี้
เมื่อผมจัดการยันตัวขึ้นแล้วเปลี่ยนไปนั่งบนเตียงกับเขา ก่อนจะคว้าเอวบางนั้นมากอดไว้แล้วกดสันจมูกลงไปที่แก้มนิ่มนั้นสองสามทีเหมือนอยากจะแกล้ง
“อะไร หืม?”
“ชานยอลจะ..จะทำอะไรอะ..”
ตัวเล็กถามกลับมาเสียงอ้อมแอ้ม
มือเล็กนั้นเลื่อนมาทาบไว้บนหน้าอกของผมหมายที่จะดันออกซะอย่างนั้น
นี่เขายังไม่ชินสินะ.. ฮะๆ แบบนี้แหละโคตรน่าแกล้งเลย
“กลัวไร? มากกว่านี้ก็เคยทำแล้วโถ่..”
“ฮื่อ ชานยอลอะ”
“ฮึฮึ”
ผมหัวเราะออกมาน้อยๆ
เพราะเห็นว่าเขาน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะดันคนตัวเล็กให้เอนลงไปนอนบนเตียงอย่างลืมตัวแล้วยื่นหน้าเข้าไปซุกไซร้กับตัวเล็กอยู่อย่างนั้น
ริมฝีปากของผมพรมจูบไปตามหน้าผาก แก้มใส จมูกเล็กๆนั้นอย่างโหยหา
ก่อนจะเลื่อนมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบางนั้นอย่างชั่งใจ
“ชานยอล..”
“ขอนิดนึงได้ปะตัวเล็ก..”
“ห่ะ..หืม..”
“ขอจูบ..หน่อยดิ.. คิดถึงอะ”
ริมฝีปากของผมเลื่อนเข้าไปแตะเบาๆ
ที่ปากเล็กของเขาอย่างเกร็งๆ เพราะกลัวจะทำอะไรรุนแรง ใจนึงผมก็อยากจูบเขาจนแทบทนไม่ได้
แต่อีกใจนึงผมก็กลัวว่าตัวเองจะทำอะไรรุนแรงเกินไป
“...”
“อื้ม..”
ตัวเล็กชั่งใจอยู่ซักพักเหมือนกัน แต่แล้วฝีปากเล็กๆนั้นเป็นฝ่ายเลื่อนเข้ามาประทับจูบกับผมเองโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว
ทำให้ผมเองก็แทบจะไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ผมก็ไม่อึ้งอยู่นานหรอกครับ
เมื่อผมเองก็ทำการจูบตอบกลับไปอย่างไม่รอช้าในทันที
จูบของเราครั้งนี้เป็นจูบที่เนิบนาบ
ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนครั้งก่อนๆ แต่อย่างใด
แต่มันผมคิดว่ามันเป็นจูบที่อ่อนหวานที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาเลยก็ได้นะ
และผมก็คิดว่าชีวิตนี้ผมคงจูบกับใครแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วแหละ
เพราะผมคงทำได้กับแค่เขาคนเดียวเท่านั้น..
แค่ตัวเล็กคนเดียวเท่านั้นจริงๆ
ตัวเล็กเผยอปากเล็กน้อยเพื่อให้ผมได้สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปอย่างเนิบนาบแต่อ่อนหวาน
ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด ลิ้นร้อนของเราทั้งสองคนเกี่ยวกระหวัดกันอย่างโหยหาเนื่องจากความคิดถึง
มันเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนเข้าในใจของผมได้ดีเลยทีเดียวว่าผมต้องการเขามากขนาดไหน..
“ชะ..ชานยอล..”
“พอแล้ว..”
เราจูบกันเนิ่นนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
แต่ผมก็คิดว่าเวลามันช่างผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน ตัวเล็กร้องเรียกเบาๆเมื่อผมตัดสินใจถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
ก่อนจะเอื้อมแขนขึ้นมารั้งท้ายทอยของผมเอาไว้ให้โน้มลงไปประทับริมฝีปากกับเขาอย่างเดิม..
“พอแล้ว..ตัวเล็ก..”
“ฮื่อ..”
ริมฝีปากของเราจรดกันอยู่แบบนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
จนผมกลัวว่าผมจะห้ามตัวเองไม่อยู่ ถ้าหากเรายังนัวเนียกันอยู่แบบนี้
ผมคิดว่ามันคงจะไม่ดีแน่
“ไม่เอาแล้วตัวเล็ก..”
ผมผละริมฝีปากออกมาสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์
ก่อนจะใช้แขนยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งหันหลังให้กับเขา แต่แล้วความรู้สึกอุ่นๆมันก็แผ่ซ่านเข้ามาที่บริเวณหลังกว้าง
เมื่อคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังเองเป็นฝ่ายลุกขึ้นมากอดผมเอาไว้
“ชานยอล..”
“หือ?”
“ชานยอลรังเกียจเราหรอ..”
คนตัวเล็กถามออกมาเสียงอู้อี้ที่แผ่นหลังของผม
แต่ผมกลับได้ยินคำถามนั้นได้อย่างชัดเจน และก็ไม่รู้ทำไมว่าหัวใจของผมมันถึงได้กระตุกวูบแบบนั้น
ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นซักหน่อย..
“พูดอะไรน่ะตัวเล็ก..”
ผมถามขึ้นเสียงเบาก่อนจะหันหน้าไปจ้องตากับเขา
“ก็ชานยอล..”
“ตัวเล็กไม่สบายอยู่นะ..”
“ฮื่อ..เรา..”
“ตัวเล็กไม่ไหวหรอก แล้ว..แล้วเราก็กลัวทำตัวเล็กเจ็บ..”
ผมพูดขึ้นเสียงเบา ก่อนจะหันมาคว้าเอวบางนั้นมากอดไว้
จมูกโด่งยังคงคลอเคลียอยู่ที่แก้มใสนั้นอย่างไม่อยากจากไปไหนเลยแม้แต่น้อย
แต่ผมต้องห้ามใจ..
“แต่เรา..”
ตัวเล็กดันอกของผมให้ออกห่าง
ก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองแล้วช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าผมอย่างชั่งใจ
“หืม?”
“เรา...”
“...”
“เราอยากเป็นของชานยอลนะ..”
ในที่สุด เขาก็พูดออกมาเสียงเบายิ่งกว่าเก่า
ก่อนจะหลบสายตามองลงต่ำ ใบหน้านวลขึ้นสีเรื่อออกมาจางๆ กับสิ่งที่ตัวเองเอ่ยออกมา
จนผมต้องหัวเราะเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงไปหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ ด้วยความเอ็นดู
“ฮะๆ ว่าไงนะ หืม?”
“งื้อ ตลกอะไรอะชานยอล.. เราพูดจริงนะ..”
คนตัวเล็กเบ้หน้าเล็กน้อยเมื่อผมเอ่ยแซว
ก่อนจะซุกหน้าเข้ามาไว้กับอกของผมเพื่อจะปกปิดความขวยเขิน
“อย่ามาทำตัวน่ารักนะตัวเล็ก
เดี๋ยวเราอดใจไม่ไหวทำไง..”
“ก็เราพูดจริงนะ..เรา”
เขาพูดออกมาเสียงอู้อี้
“ไม่เอาหรอก ..ถ้าอยากเป็นของเรา ตัวเล็กต้องหายนะ”
“...”
“ตกลงมั้ย?”
ผมจับคางเล็กนั้นไว้ให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
ก่อนจะถามซ้ำๆ เมื่อเห็นว่าเขาเงียบไป
“....”
“หืม?”
“มัน..มันไม่มีวันนั้นหรอกชานยอล..”
เขาพูดออกมาเสียงสั่น ก่อนที่ในตาคู่สวยจะมีน้ำใสออกมาเคลอ
“อย่าพูดแบบนั้นดิตัวเล็กอ่า ไม่เอาๆ อย่าร้องไห้ดิ...”
“ก็เรา..ฮึก..”
“ไม่เอาๆ ไม่ร้องแล้วนะ อย่าดิตัวเล็ก”
ผมดึงเขาเข้ามากอดไว้พร้อมๆกับที่ลูบหัวเบาๆ
อีกแล้ว.. ผมทำให้เขาร้องไห้อีกแล้ว
ทำไมผมมันแย่จังวะ
“ชานยอล..”
“หือ”
“เรารักชานยอลนะ..”
ตัวเล็กเอ่ยออกมาเสียงเบาก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมามองผม
มือเล็กนั้นกุมเสื้อของผมจนยับยู่นี่ไปหมด และก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่ใบหน้าของเราทั้งสองคนค่อยๆเคลื่อนเข้าหากันอีกช้าๆ
“ให้เรา..”
“....”
“ให้เราเป็นของชานยอลนะ..”
“ตัวเล็ก..”
“ชานยอลก็จะเป็นคนแรกของเราเหมือนกัน”
“...”
“แล้วก็จะเป็นคนสุดท้ายด้วย”
“...”
“เราจะเป็นของชานยอลแค่คนเดียว..”
สิ้นสุดประโยคนั้น ริมฝีปากของเราทั้งสองก็จรดเข้าหากันอย่างลึกซึ้ง
ผมสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปตวัดหาความหวานกับตัวเล็กอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
ในขณะที่เขาเองก็จูบตอบกลับมาอย่างเงอะๆงะๆ มือหนาของผมลูบไล้ไปตามโครงหน้าของเขาอย่างเบามือ
และโดยที่ไม่รู้ตัว ผมก็ดันเขานอนลงกับเตียงก่อนจะทาบทับตัวเองลงไปอย่างเนิบนาบ
สติทั้งหลายทั้งแหล่ที่ผมควรจะประทังไว้มันหายวับไปหมดไม่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียวเมื่อได้ยินเสียงครางหวิวดังออกมาจากคนที่อยู่ด้านใต้
จมูกโด่งของผมกดลงไปซุกไซร้กับแก้มใสนั้นแล้วค่อยๆเลื่อนลงมาตามซอกคอขาวระหงส์
สูดเอาความหอมที่เหมือนกับกลิ่นของสบู่เด็กซึ่งมันทำให้ใจของผมสั่นระรัวได้อย่างไม่น่าเชื่อเข้าไปเสียเต็มปอด
ริมฝีปากทาบทับลงไปจูบซับทั่วทุกบริเวณซึ่งผมต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ
“อ่ะ..ฮื่อ..”
มือบางของเขากำแน่นที่เสื้อผมไม่ยอมปล่อย
ทำให้ผมรู้ว่าเขาเกร็งมากขนาดไหนกับการที่เราจะทำแบบนี้
“กลัวหรอตัวเล็ก..”
ผมยันตัวขึ้นมามองเขาที่กำลังหลับตาปี๋อย่างน่ารัก
ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมต้องหัวเราะออกมาเบาๆออกมาอีกครั้ง กับการที่ได้เห็นแบบนี้
ตัวเล็กบริสุทธิ์เกินไป..
บริสุทธิ์มากเกินไปจนผมกลัว..
“อื้อ..”
“งั้นไม่ทำแล้วมั้ย?”
“มะ..ไม่นะ..เรา...”
“...”
“เราอยากเป็นของชานยอลมากกว่า..”
เขาตอบกลับมาเสียงเบาก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองไว้
ใบหน้านวลขึ้นสีเรื่ออีกแล้วจนผมอดใจไม่ไหว
ต้องก้มลงไปกดจมูกลงบนแก้มเขาทั้งซ้ายทั้งขวา
“ถ้าไม่ไหวบอกนะ..”
“อื้อ..”
“รีบบอกเลยนะรู้มั้ย..”
“อะ..อื้ม”
ผมเลื่อนจมูกโด่งมาซุกไซร้ที่ซอกขอขาวของเขาอยู่อย่างนั้นอีกซักพัก
ก่อนจะแทรกมือเข้าไปในชุดบางเฉียบซึ่งเป็นชุดของผู้ป่วย
จัดการลูบไล้ไปตามผิวเนียนละเอียดของเขาอย่างเนิบนาบในขณะที่ริมฝีปากร้อนยังคงก้มลงจูบซับไปทั่วบริเวณร่างกายของเขาที่ผมแสนจะโหยหา
ก็ไม่รู้ว่าทำไมมือของผมถึงได้สั่นแบบนี้..
แล้วก็ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าร่างกายของเราทั้งสองคนต่างก็เปลือยเปล่าตั้งแต่เมื่อไหร่..
แสงไฟจากหลอดนีออนสะท้อนให้เห็นร่างของผมและตัวเล็กเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างช้าๆ
ไม่รีบร้อน ผมคิดว่าแบบนั้น แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ
ผมถือว่าค่ำคืนนี้เป็นคืนที่พิเศษสำหรับผมจริงๆ
ที่เขาบอกว่าการมีอะไรกับคนที่เรารัก
มันจะพิเศษกว่าการมีอะไรกับคนอื่นๆ นั่นคงจริงสินะ
เพราะทุกสัมผัสที่เราทั้งสองถ่ายทอดถึงกัน
มันช่างหอมหวานมากกว่าสิ่งใดในโลกที่ผมเคยเจอ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ร้อนแรงเหมือนกับที่ผมทำกับคนอื่น
ไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจเต้นระรัวไปหมดเหมือนกับครั้งไหนๆ
แต่ผมบอกได้เลยว่านี่แหละคือสิ่งที่ผมโหยหามาตลอด
เพราะอะไรน่ะหรอ?
เพราะมันไม่ใช่การมีอะไรกันด้วยร่างกายเหมือนที่ผมทำกับคนทั่วไป
แต่มันคือการมีอะไรกันด้วยใจ
ซึ่งผมไม่เคยทำกับใครมาก่อน..
และผมก็ไม่คิดว่าจะทำกับใครได้อีก
“อ่ะ..อ๊า..ชานยอล..”
ตัวเล็กปรือตาขึ้นมามองผม
ก่อนจะส่งมือบางของตัวเองมาลูบไล้ตามโครงหน้าเรียวแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่นเสียอย่างนั้น
เขาหลับตาพริ้มรอรับสัมผัสทุกอย่างที่ผมส่งเข้าไปในตัวอย่างเนิบนาบ
ในขณะที่ริมฝีปากเล็กก็เม้มเข้าหากันเพื่อพยายามจะกลั้นเสียงครางของตัวเองเอาไว้
ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงบอกให้เขาร้องออกมาดังๆ
แล้วล่ะมั้ง แต่กลับตัวเล็กผมไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลยนะ ผมว่าแบบนี้มันก็แบบ...
น่ารักดีเหมือนกัน
“ไหวมั้ยตัวเล็ก..อะ..”
“อื้อ..อะ..อื้อ”
ผมก้มลงไปกระซิบถามที่ข้างหู ก่อนจะดึงมือบางมาจูบซับจนทั่วไปหมด
แล้วสอดประสานนิ้วมือทั้งห้าเข้ากับของเขาจนเราทั้งสองเป็นหนึ่งเดียว
ในขณะที่ยังคงขยับกายเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหัวสมองผมเริ่มจะขาวโพลนไปหมดทุกสิ่ง
เพราะผมใกล้แล้วกับการที่จะไปถึงฝั่งฝัน และผมก็คิดว่าตัวเล็กก็เช่นกัน.. ผมรู้สึกได้
เพราะลำตัวของเขาบิดเกร็งไปแทบจะทุกส่วน ไหนจะมือบางที่กำแน่นเหมือนอยากจะระบายนั่นอีก
และโดยไม่รอช้า มือหนาของผมก็ส่งไปปรนเปรอความสุขให้คนตัวเล็กเพื่อให้เขาได้ไปถึงฝั่งฝันในไม่ช้าอีกเหมือนกัน
“ชานยอล..ฮื้อ..ชานยอล..”
ไม่นาน..ร่างกายของคนตัวเล็กก็กระตุกสั่น
ใบหน้าเหยเกเมื่อความเสียวซ่านแล่นมาถึงจุดสูงสุด
ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยออกมาเปรอะเปื้อนตามหน้าท้องที่เป็นลอนสวยงามของผม
“อะ..อ่า..”
ส่วนผมเองก็ก้มลงไปจูบซับที่บริเวณขมับของเขา
ก่อนจะสอกใส่แกนกายรอดผ่านช่องทางของคนตัวเล็กอีกสองสามที
แล้วค่อยถอนแกนกายของตัวเองออกมารูดรั้งอยู่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุด หยาดน้ำรักทั้งหลายก็ผม
ก็ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น
จริงๆ แล้วผมก็อยากปลดปล่อยในตัวเขานะครับ
แต่ไม่เอาดีกว่าเขาจะได้ไม่ต้องลุกไปล้างตัวให้มันลำบาก
“เรา..แฮ่ก ..เรารักชานยอลนะ..”
ตัวเล็กนอนหายใจหอบถี่
ก่อนจะปรือตาขึ้นมามองผมแล้วเอ่ยปากออกมาเบาๆ
“อื้อ ฝันดีนะตัวเล็ก..”
“ขอบคุณนะชานยอล..”
“ฮะๆ ..นอนซะนะคนดี..”
“ขอบคุณนะ..”
ผมยกมือขึ้นมาลูบหัวเขาเบาๆ
แล้วก้มลงจูบซับถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีอยู่ให้เขาได้รับรู้
ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าที่หัวเตียงมาเช็ดทำความสะอาดตัวเขาให้ละเอียด
จากนั้นก็ใส่เสื้อผ้าให้อย่างเบามือ ตามต่อด้วยจัดการตัวเองให้เรียบร้อยทุกอย่าง
“เรารักตัวเล็กนะ”
ผมมั่นใจว่าตอนนี้หัวใจของผมมันบอกว่าตัวเองรักตัวเล็กมากขนาดไหน
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม
ถึงไม่กล้าพูดคำว่ารักออกไปให้คนตัวเล็กได้ฟังต่อหน้าเสียที
ทำได้เพียงแค่บอกตอนที่เขาหลับไปแล้วแบบนี้เท่านั้นแหละครับ..
ผมว่าผมยังไม่กล้าพอ..
ผมเอนตัวลงนอนข้างๆ เขา ก่อนจะดึงเขามากอดไว้แล้วซุกหน้าลงไปกับซอกคอขาว
จากนั้นเราทั้งสองก็เข้าไปสู่ห้วงนิทราด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ฝันดีนะตัวเล็กของผม
…
..
.
กลับไปเม้น http://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=883907